TPCH ประกาศบิ๊กดีลลงทุนโซลาร์ฟาร์ม 100 MW ในลาวหนุนธุรกิจเข้าโหมดเติบโตรอบใหม่โชว์งบ Q1/66 กำไรสุทธิ 110.77 ลบ. เพิ่มขึ้นกว่า 100 %
TPCH ไม่ทำให้ผิดหวัง! ประกาศบิ๊กดีลลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 100 เมกะวัตต์ ในสปป.ลาวเดินหน้าศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม-แสงอาทิตย์ในต่างประเทศต่อเนื่อง หนุนธุรกิจเข้าสู่โหมดเติบโตรอบใหม่ พร้อมโชว์งบ Q1/66 กำไรสุทธิ 110.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 100% จ่อ COD โรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวลแม่ลาน (PBM) กำลังการผลิตติดตั้ง 3 เมกะวัตต์ ภายใน Q2/66 ลุยพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะในประเทศเพิ่ม
นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/66 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566) มีกำไรสุทธิ 110.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 100% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 36.99 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 786.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 160.99 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 625.52 ล้านบาท
สาเหตุหลักที่ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นมาจากการทยอยรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD) ของโครงการโรงไฟฟ้า รวม 11 แห่ง ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงชีวมวลCRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP , PTG ,TPCH 5 , TPCH 1 ,TPCH 2 และโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะ SP มีกำลังการผลิตรวม 116.3 เมกะวัตต์
"ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 1/66 ยังเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากโรงไฟฟ้าทั้ง 11 แห่ง สามารถเดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ตามปกติและมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การ COD ของโรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล บันนังสตา (PBB) กำลังการผลิตติดตั้ง 3 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ TPCH มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 119.3 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น รวมถึง การเตรียม COD โรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล แม่ลาน (PBM) กำลังการผลิตติดตั้ง 3 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ในช่วงทดสอบระบบเพื่อเตรียมความพร้อมในการจําหน่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) คาดว่าจะสามารถ COD ได้ภายในไตรมาส2/66 นี้ หนุนธุรกิจเข้าสู่โหมดเติบโตรอบใหม่” นางกนกทิพย์กล่าว
นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการมีกำลังการผลิตรวม 300 เมกะวัตต์ แบ่งออกเป็น โรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล 115 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะ 50 เมกะวัตต์ และโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และลมในต่างประเทศ 135 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568
ทั้งนี้ บริษัทฯ เข้าร่วมลงทุนและจ่ายชําระค่าหุ้นสามัญของบริษัท แม่โขง พาวเวอร์ จํากัด (MKP) ครบถ้วนในสัดส่วนร้อยละ 40 ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจําหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาวและ MKP ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์ กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) แล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 โดยมีระยะเวลา 25 ปีนับจากวันที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date : COD )
นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศ ประเภท พลังงานลมพลังงานแสงอาทิตย์ ประมาณ 500 เมกะวัตต์ ทั้งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เวียดนาม และกัมพูชาเพิ่มเติม
สำหรับการลงทุนภายในประเทศในส่วนของโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะ ขณะนี้ อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะ 5-7 โครงการ ภายใต้บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด (SP) ซึ่งTPCH ถือหุ้นในสัดส่วน 50% เพื่อเข้าร่วมโครงการรับซื้อไฟฟ้าของภาครัฐ คาดว่า จะเห็นความชัดเจนเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายในปีนี้ ประมาณ 1-2 โครงการ โดยเป็นโครงการรูปแบบ VSPP ทั้งหมด
ขณะเดียวกัน บริษัทได้นําโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงชีวมวลทั้ง 10 โครงการ ไปขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตในรูปแบบ I-REC Standard โดยในปี 2565 โดยนํากระแสไฟฟ้าหมุนเวียนที่ผลิตได้ไปขึ้นทะเบียนและคํานวณเป็นเครดิต (REC) ที่ประมาณ 705,000 หน่วย ซึ่งได้มีการเซ็นสัญญาขายเครดิตกับบริษัทเอกชนต่างๆไปเรียบร้อยแล้วบางส่วน